Faculty of Pharmacy

การฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชกรรมอุตสาหการ 2567-2568

การฝึกปฏิบัติงานบริบาลทางเภสัชกรรม เพิ่มความสามารถเฉพาะในการดูแลการใช้ยาในผู้ป่วยอายุรกรรมที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยประยุกต์หลักการ เหตุผล และหลักฐานเชิงประจักษ์จากการประเมินวรรณกรรมทางคลินิก นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านการใช้ยาแก่ผู้ป่วยอายุรกรรม การทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ

การบริบาลทางเภสัชกรรมยาเตรียมเฉพาะราย แบ่งออกเป็น 2 งานหลัก ซึ่งมีจุดมุ่งหมายสำหรับแต่ละงานดังนี้

การฝึกปฏิบัติงานบริบาลทางเภสัชกรรมในผู้ป่วยโรคมะเร็ง    

เพื่อให้เกิดความสามารถในการดูแลการใช้ยาในผู้ป่วยโรคมะเร็ง การเลือกใช้ยา การให้ความรู้ในการใช้ยา โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับอาการข้างเคียงที่เกิดจากยาเคมีบำบัดที่ใช้รักษาโรคมะเร็ง การติดตามและการประเมินผลการรักษา รวมทั้งเรียนรู้เทคนิคที่ดีในการเตรียมยาเคมีบำบัด และสามารถทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์อื่น ๆ ได้

การฝึกปฏิบัติงานการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ

เพื่อให้สามารถประเมินภาวะทางโภชนาการ พิจารณาความเหมาะสมของสูตรอาหารในผู้ป่วยแต่ละราย ฝึกเตรียมและปรับสูตรสารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือดดำให้มีความคงตัว และเข้ากันได้ รวมทั้งติดตามผลการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ อาการข้างเคียง และภาวะแทรกซ้อนจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำในผู้ป่วยแต่ละรายได้ และสามารถทำงานร่วมกับบุคลากรทางแพทย์อื่น ๆ ได้

จ่ายยาในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และให้คำปรึกษาด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ประเมินปัญหาและแก้ไขปัญหาการใช้ยาในผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือในผู้สูงอายุแต่ละราย ประเมินอาการไม่พึงประสงค์จากยา โดยบูรณาการความรู้ศาสตร์ต่าง ๆ ในทางเภสัชศาสตร์ การทำงานร่วมกับสหสาขาวิชาชีพ

การฝึกทักษะภาษาอังกฤษทั้งการพูด อ่านและเขียนสำหรับเภสัชกร ทั้งที่ใช้ใน งานบริการ การสื่อสารกับผู้ปุวยและลูกค้า และที่ใช้ในงานวิชาการ การอ่านและสรุปใจความ สำคัญจากบทความวิจัย การเขียนบทคัดย่อและต้นฉบับบทความการวิจัย การนำเสนอปากเปล่า ทางวิชาการ รวมถึงที่ใช้ในงานบริหารจัดการ ประวัติผลงาน จดหมายสมัครงานและการสัมภาษณ์งาน

การเลือก การจัดเตรียม ตรวจสอบความถูกต้อง ส่งมอบ การให้คำปรึกษาและติดตามผลการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำหรับโรคที่พบบ่อยในร้านยา และสถานบริการสุขภาพปฐมภูมิ รวมถึงในผู้ป่วยที่รับบริการติดตามดูแลรักษาที่บ้าน (home pharmaceutical care) โดยประยุกต์ความรู้ทางพยาธิสรีรวิทยา เภสัชวิทยา และศาสตร์ต่าง ๆ ทางเภสัชกรรม มาใช้ในการดูแลสุขภาพผู้รับบริการ โดยคำนึงถึงหลักการเลือกใช้ยาอย่างสมเหตุผล และมีแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับจรรยาบรรณและกฎหมายวิชาชีพ

บูรณาการความรู้ทางเภสัชวิทยา เทคโนโลยีเภสัชกรรม เภสัชเคมี เภสัชจลนศาสตร์ สมุนไพร จรรยาบรรณวิชาชีพ และกฎหมายยามาประยุกต์ในผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป อภิปรายกรณีศึกษายาความดันโลหิตสูง ยาปฏิชีวนะ และการประเมินอาการไม่พึงประสงค์ มีทัศนคติที่ดีต่อการมีปฏิสัมพันธ์และความรับผิดชอบของเภสัชกรต่อบุคคลอื่น ผู้ป่วย ญาติ บุคลากรทางการแพทย์อื่น

การใช้ยาและแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับกับภาวะโรคติดเชื้อ เชื้อดื้อยา การใช้ยากดภูมิคุ้มกัน และการใช้ยา            ในโรคมะเร็งต่างๆ โดยพิจารณาจากหลักฐานเชิงประจักษ์ การค้นหา แก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการใช้ยา และการให้คำปรึกษาด้านยา โดยศึกษาจากกรณีศึกษา และเน้นการบูรณาการความรู้ทางเภสัชวิทยา เคมีของยา และผลิตภัณฑ์ยา โดยนำมาใช้ในการเลือกยาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย และคำนึงถึงการใช้ยาอย่างสมเหตุผล

การประยุกต์ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวกับเภสัชวิทยาและพิษวิทยาทางคลินิกนำมาใช้ในการประเมินอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction; ADR) และ ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกิดขึ้นในทางคลินิก โดยศึกษาจากกรณีศึกษาเกี่ยวกับการเกิด ADR ต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย และการเกิดอันตรกิริยาระหว่างยารวมทั้งผลิตภัณฑ์สุขภาพ ทำให้มีการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างปลอดภัย รวมทั้งบทบาทของเภสัชกรในการติดตาม ประเมินชนิดและความรุนแรงของ ADR และการจัดการปัญหา ADR การศึกษาระบบติดตามและรายงาน ADR ในหน่วยงาน และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด ADR ซ้ำในผู้ป่วย

 ฝึกทักษะการตรวจสอบความถูกต้องของใบสั่งยา และการจ่ายยาในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ฝึกทักษะการรวบรวมข้อมูลผู้ป่วย ทั้งจากเวชระเบียน และการสัมภาษณ์ผู้ป่วย ประเมินปัญหาและแก้ไขปัญหาการใช้ยาในผู้ป่วยแต่ละราย โดยบูรณาการความรู้ศาสตร์ต่าง ๆ ทางเภสัชศาสตร์ ฝึกทักษะการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยาที่มีช่วงการรักษาแคบแก่ผู้ป่วยแต่ละราย และการให้ข้อมูลยาแก่ประชาชนทั่วไป ผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์

วิเคราะห์กรอบแนวคิด คาถาม และสมมติฐานการวิจัยเภสัชภัณฑ์ รูปแบบการวิจัย การออกแบบการวิจัยเน้นที่การวิจัยเชิงทดลองในการพัฒนาเภสัชภัณฑ์ ชนิดของผลลัพธ์ของการวิจัย การวัดตัวแปรที่เหมาะสมกับสมมุติฐานและรูปแบบการวิจัย การบันทึกและจัดการข้อมูลโดยใช้หลักสถิติที่เหมาะสม ในการประเมินและสรุปผลการวิจัย การวิพากษ์งานวิจัย และเผยแพร่งานวิจัย